สระอะ สระอะ มีวิธีใช้ ๔ อย่าง คือ:- ก. คงรูป คือต้องประวิสรรชนีย์ (-ะ) ข้างหลังพยางค์ทุกพยางค์ที่ออกเสียง อะ ในกรณีดังนี้:- ๑. เป็นพยางค์ของคำไทยแท้ เช่น:- กะบะ กะทะ มะระ ปะทะ ฯลฯ มีข้อยกเว้นบ้างซึ่งจะกล่าวในข้อ ข. ๒. เป็นพยางค์สุดท้ายของคำบาลี สันสกฤต และภาษาอื่นๆ เช่น:- สรณะ คณะ อิสระ อาสนะ เอเดนเบอระ ฯลฯ ๓. เป็นพยางค์ของคำในภาษาอื่นนอกจากภาษาบาลีสันสกฤต และภาษาตระกูลอินเดีย ยุโรป เช่น:- บะหมี่ แป๊ะซะ ตือบะ ซากุระ โอสุกะ กะจับปี่ มะเดหวี มะงุมมะงาหลา มะตาหะรี อะแซหวุ่นกี้ โปมะยุง่วน ฯลฯ ๔. เป็นพยางค์หน้าของคำ ซึ่งออกเสียง กระ ตระ ประ พระ ไม่ว่าภาษาใดๆ เช่น:- กระติก กระถาง กระแหม่ว กระจาย กระฎุมพี กระษาปณ์ กระสูทธิ์ กระฎี ตระกูล ตระกอง ตระคัร ตระ-ลาการ ประกาศ ประณีต ประสิทธิ์ ประสาท พระหารัณย์ พระหาวัน พระหาสุข ฯลฯ หมายเหตุ: พยางค์เดิมที่เป็น " ชะ " ถ้าเพิ่มตัว " ร " เข้าข้างหลัง ให้ประวิสรรชนีย์เฉพาะที่ตัว " ร " เท่านั้น เช่น:- ชระง่อน เดิมเป็น ชะง่อน ชระมด " ชะมด ชระลอ " ชะลอ ชระแลง " ชะแลง ชระลูด " ชะลูด ข. ลดรูป คือไม่ต้องประวิสรรชนีย์ (-ะ) ในพยางค์ที่ออกเสียง อะ แต่ต้องออกเสียงเป็น อะ เหมือนมีวิสรรชนีย์กำกับอยู่ด้วย ในกรณีต่อไปนี้:- ๑.
เป็นพยางค์ที่เป็นอักษรนำ เช่น:- ข นม ข ยัน ข ยะ ฉ ลอง ถ นอม ผ นวช ผ นวก ฝ รั่ง ฝ รั่น ส มาน ส มิง ฯลฯ ทั้งนี้เพราะตัวนำกับตัวตามเป็นตัวเดียวกัน เพราะเป็นอักษรประสม ๒. เป็นคำยกเว้น ซึ่งใช้เขียนไม่มีประวิสรรชนีย์มาแต่โบราณและรับรองกันว่าถูกต้อง ไดแก่คำ:- ณ ที่แปลว่า ใน, ที่ เช่น:- ณ ที่นั้น ท " คน, ท่าน, ผู้ เช่น:- ท แกล้ว = คนแกล้ว, ท นาย = คนผู้เป็นนาย ธ " ท่าน, เธอ เช่น:- ธ ประสงค์ใด... พ " พ่อ, พระ เช่น:- พ นักงาน = พ่อคนงาน, พ นาย = พ่อนาย พณ " พ่อเหนือ, พระเหนือ เช่น:- พณ หัว = พ่อเหนือหัว, พณ หัวเจ้า = พ่อเหนือหัวเจ้า, พณ หัวเจ้าท่าน = พ่อเหนือหัวเจ้าท่าน ทั้ง ๓ คำนั้น ใช้เขียนย่อเป็นอย่างเดียวกันว่า ฯพณฯ จะอ่านว่า พณหัว, พณหัวเจ้า หรือ พณหัวเจ้าท่าน ก็ได้ แต่ปัจจุบันนี้นิยมให้อ่านว่า พะนะท่าน (บัญญัติให้อ่านเช่นนี้หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว พ. ศ. ๒๔๗๕) ๓. เป็นตัวสะกดในคำไทยบางคำซึ่งนิยมออกเสียงตัวสะกดเป็นพิเศษ เช่น:- ส ก ปรก จั ก จั่น ตั๊ ก แตน สั พ ยอก สั ป หงก สั ป ดน อ ล หม่าน ฯลฯ ๔. เป็นพยางค์ที่แผลงมาจากคำเดิมซึ่งไม่มีวิสรรชนีย์หรือไม่ประวิสรรชนีย์ เช่น:- ชรไม เดิมเป็น ชไม ชรโลง " ชโลง ชรอ่ำ " ชอ่ำ ชรอื้อ " ชอื้อ ชรอุ่ม " ชอุ่ม ๕.
โดย ยอดมนู เบ้าสุวรรณ และธีระวุฒิ ปัญญา
สระ อะ | ฝึกอ่านประสมสระ | ครูกวาง - YouTube